คนท้องกินน้ำ “มะพร้าว” ได้หรือไม่?

คนท้องกินน้ำ “มะพร้าว” ได้หรือไม่ ? ใครเคยได้ยินความเชื่อแบบนี้กันบ้างที่ว่า “ดื่มน้ำมะพร้าวขณะตั้งครรภ์จะทำให้แท้งได้” หรือ “กินน้ำมะพร้าวช่วยให้ลูกผิวขาว ไม่มีไข” เป็นความขัดแย้งที่แบบตกลงคนท้องกินน้ำมะพร้าวได้หรือไม่ วันนี้ ACU เลยทำหน้าที่เป็นตัวแทนไปหาข้อมูลข้อเท็จจริงกันแบบชัดๆ รวมไปถึงประโยชน์ของมะพร้าวจะมีอะไรบ้างไปอ่านกันได้เลย มะพร้าวเป็นผลไม้ยอดฮิต ด้วยความที่มีรสชาติหวานกลมกล่อม ชื่นใจ พร้อมกับเนื้อมะพร้าวเข้ากันแบบสุด ๆ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่นิยมกินกันตามชายหาดทะเลอีกด้วย แต่ก็ยังคงมีความเชื่ออยู่มากมายเกี่ยวกับการกินน้ำมะพร้าวทั้งดีและไม่ดี มาดูกันว่าจะมีความเชื่ออะไรบ้างเกี่ยวกับน้ำมะพร้าวนี้ มีประจำเดือนห้ามกินน้ำพร้าวหรือของที่ทำมาจากมะพร้าว เช่น ไอติมกะทิ เป็นต้น หลายคนจะบอกว่ามะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนรวมอยู่ ทำให้ผนังมดลูกหนาขึ้นและเกิดการบีบรัดตัวมากขึ้นจนทำให้เกิดอาการปวดท้องมากกว่าปกติในช่วงที่ประจำเดือนมา หรือเลวร้ายไปกว่านั้นคืออาจเกิดอาการช็อคได้! ในความเป็นจริงแล้วมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนมีอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ๆ สรุปแล้วสามารถกินน้ำมะพร้าวขณะมีประจำเดือนได้ แต่เพียงแค่ไม่ควรประทานเยอะจนเกินไป กินน้ำมะพร้าวขณะตั้งครรภ์จะทำให้ลูกออกมาผิวขาว ไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องสีผิวนั้นขึ้นกับกรรมพันธุ์ โดยยีนที่ควบคุมการแดงออกของเมลานินหรือเม็ดสี จะทำให้คนเราเกิดมามีสีผิวที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงสภาพอากาศสิ่งแวดล้อม เช่น การได้โดนแสงยูวีมากจนเกินไปก็อาจทำให้ผิวไหม้ผิวดำได้ หรือ การบำรุงผิวด้วยโลชั่นก็อาจจะทำให้ผิวขาวขึ้น เป็นต้น กินน้ำมะพร้าวขณะตั้งครรภ์ เวลาคลอดลูกจะไม่มีไข โดยปกติตามธรรมชาติไขของทารกในครรภ์จะเกิดขึ้นในช่วงที่เริ่มตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เพื่อช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นแก่ผิว ป้องกันความร้อนและแบคทีเรีย อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยหล่อลื่นทำให้คลอดออกมาได้ง่ายขึ้น ซึ่งการดื่มน้ำมะพร้าวนั้นมีทั้งไขมันที่อิ่มตัวและไม่อิ่มตัว เมื่อคุณแม่ดื่มน้ำมะพร้าวจะทำให้มีไขกับตัวทารก แต่เพียงว่าจะเป็นไขที่สีสะอาดขึ้น […]

ไขความจริง!! ต้องนอนกี่ชั่วโมงถึงจะพอดี

ไขความจริง !! ต้องนอนกี่ชั่วโมงถึงจะพอดี เป็นคำถามยอดฮิตของหลาย ๆ คนมาก ๆ กับคำว่า “นอนเท่าไหร่ถึงจะพอดี” เพราะไม่ว่าทำอะไรก็ง่วงอยู่ตลอด ทั้ง ๆที่บางคนก็บอกว่าตัวเองนอนเร็ว ตัวเองนอนเยอะ แต่ทำไมง่วงไม่สดชื่น ซึ่งการพักผ่อนเป็นอีก 1 ปัจจัยที่ส่งผลเรื่องสุขภาพไม่ว่าจะเป็นระบบประสาทและสมอง ระบบย่อยอาหาร ระบบไหลเวียนโลหิต หรือจะเป็นระบบการทำงานของฮอร์โมนที่ผิดปกติไปจากเดิมนั้นเอง เพราะฉะนั้นวันนี้เรามีสาระดี ๆ มาบอกต่อกับทุกคนเกี่ยวกับช่วงเวลานอน และนอนเท่าไหร่ถึงจะพอดี ไปดูกันเลยยย  ช่วงอายุกับการพักผ่อน อย่างที่บอกว่าการพักผ่อน นอนหลับเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพจิต สุขภาพกาย โดยชั่วโมงนอนที่เหมาะสมมักจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ มาดูกันว่าแต่ละช่วงอายุควรนอนหลับพักผ่อนคนละกี่ชั่วโมง เด็กแรกเกิด – 1 ปี ควรนอนให้ครบ 12 – 16 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้รวมการนอนกลางวันไปด้วย ช่วงอายุ 1 – 2 ปี ควรนอนให้ครบ 11 – 14 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้รวมการนอนกลางวันไปด้วย ช่วงอายุ 3 – […]

กินอะโวคาโดยังไง? ให้มีประโยชน์

กินอะโวคาโดยังไง ? ให้มีประโยชน์ สายรักสุขภาพห้ามพลาด!! เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงผลไม้ที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนลดน้ำหนัก รักสุขภาพนั้นก็คือ “อะโวคาโด” เป็นผลไม้ที่ไม่ใครที่ไม่รู้จัก เพราะปัจจุบันอะโวคาโดนำไปประกอบอาหารของกินหลาย ๆ ซึ่งในเมื่อก่อน     อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่หายากและมีราคาสูง แต่ในตอนนี้หากินในง่ายกว่าเมื่อก่อน แถมยังมีราคาที่ถูกลงอีกด้วย ประโยชน์ของอะโวคาโดกินอย่างไรให้สุขภาพดี อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย และยังเป็นผลไม้ที่เคี้ยวง่าย เพราะฉะนั้นจะเหมาะกับวัยผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อหญิงที่ตั้งครรภ์และมีปัญหาน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ การเลือกอะโวคาโด ควรเลือกกินลูกที่สุกแล้ว วิธีเลือกก็คือ ลองบีบที่ลูกจะนิ่ม ๆ และจากการสังเกตที่ขั้วของลูก ควรเป็นสีน้ำตาลเหลือง ไม่ใช่สีเขียวอ่อนหรือสีน้ำตาลเข้ม และการกินอะโวคาโดสด แนะนำกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกินครึ่งลูกต่อครั้ง มาดูประโยชน์ของอะโวคาโดกันว่ามีอะไรบ้าง 1. ช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง แต่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในปริมาณต่ำ รวมทั้งกรดโอเลอิกที่ช่วยกระตุ้นสมองให้อิ่มเร็ว ไม่หิวบ่อย อีกทั้งยังช่วยลดไขมันไม่ดีในเลือดให้ลดลง จึงส่งผลให้น้ำหนักลงได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนังลองดูกันนะ ซึ่งการกินอะโวคาโดในช่วยที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรกิน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ 2. ช่วยลดปัญหาอาการท้องผูก อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงถึง 7 เปอร์เซ็น ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ดังนั้นจะช่วยในเรื่องการขับถ่ายที่ดีมาก แนะนำให้ใช้อะโวคาโด […]

โรคซึมเศร้า ที่ต้องเฝ้าระวังก่อนสูญเสีย

โรคซึมเศร้า ที่ต้องเฝ้าระวังก่อนสูญเสีย โรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคที่จะมาล้อเล่นกันได้ ซึ่งการเป็นโรคซึมเศร้าเป็นสาเหตุที่นำพามาสู่การเสียชีวิตด้วยวิธีการคิดสั้นต่าง ๆ และมีหลายเคสที่เรามักเห็นจะข่าวในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการคิดสั้นเพราะโรคซึมเศร้า แต่รู้หรือไม่ว่าถ้าหากเรารู้ตัวก่อนว่าตัวเองมีอาการก็สามารถไปพบแพทย์และรักษาให้หายขาดได้ เดี๋ยววันนี้เรามาทำความรู้จัก “โรคซึมเศร้า” กันเถอะ สาเหตุการเกิดโรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้าเป็นภัยเงียบร้ายใกล้ตัวที่พบขึ้นมากให้สังคม และยังมีอีกหลายคนบนโลกที่กำลังเผชิญภาวะชึมเศร้าอย่างเดียวดาย แม้บางคนจะมีความรู้ด้านโรคซึมเศร้าอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีส่วนมากเช่นกันที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้านี้ ซึ่งสาเหตุในการเผชิญโรคร้ายอย่างภาวะซึมเศร้านี้มีปัจจัยอะไรกันบ้าง ? โรคซึมเศร้าที่เกิดจากความเครียด เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่หลายคนเป็นโรคเครียด ถึงแม้จะไม่เคยมีญาติเป็นโรคซึมเศร้า แต่ความเครียดก็สามารถทำให้เราเป็นได้ เกิดจากการสะสมความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหนังสือ การทำงาน คอมเมนต์ในโซเซียล แม้กระทั่งการที่เราคิดมาก ๆ ก็สามารถทำให้เราเครียดจนพบความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ที่เซลล์สมองสร้างขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของอารมณ์  การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ร้ายแรง เช่น การสูญเสียครั้งใหญ่ของคนที่ตัวเองรักมาก ๆ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม สุดท้ายเหตุการณ์ที่พูดก่อนคิดส่งผลให้คนรับฟังหรือคนอ่านไม่สบาย สิ่งเหล่านี้เหล่ากระตุ้นให้เราเกิดโรคซึมเศร้าได้  สภาพจิตใจที่เกิดจากการเลี้ยงดู ในปัจจัยนี้จำเป็นต้องให้คนรอบข้างค่อยช่วยเหลือเพราะบางคนอาจคิดว่า ตัวเองไม่สามารถสร้างความภูมิใจได้หรือขาดความมั่นใจในตัวเอง มองตัวเองและโลกที่อยู่ในแง่ลบ หรือเครียดง่ายเมื่อเจอมรสุมชีวิต  ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดการซึมเศร้าได้ อย่างเช่นเหตุการณ์นักเรียนกระโดดตึก ซึ่งก็มีหลาย ๆ เคสที่เกิดจากการคาดหวัง จนทำให้เกิดความกดดันกับเขาเหล่านั้น และเมื่อเขาทำไม่ได้ ไม่สามารถทำความภูมิใจให้ได้ ก็เกิดความเครียดสู่การนำพาความสูญเสีย วิธีการรักษาโรคซึมเศร้า 1. การรักษาโรคซึมเศร้าด้วยวิธีการใช้ยา […]